
Porsche 718 Spyder RS (982)
Porsche 718 Spyder RS (982) เริ่มต้น 16,500,000 บาท ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU) โดย AAS Auto Service ผู้นำเข้า และ จัดจำหน่าย Porsche อย่างเป็นทางการ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากโรงงาน Porsche จากเยอรมนี


Dimension มิติตัวถัง
- ยาว 4,418 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,822 มิลลิเมตร
- สูง 1,252 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase 2,482 มิลลิเมตร


Engine เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ BOXER 6 สูบนอน ขนาด 4.0 ลิตร 3,996 ซีซี. ไร้ระบบอัดอากาศ (NA) กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 102.0 x 81.5 มิลลิเมตร พละกำลังสูงสุด 500 แรงม้า ที่ 8,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหลัง Rear-Wheel Drive (ยกขุมพลังมาจาก 911 GT3)
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.4 วินาที
- อัตราเร่ง 0-200 km/h ภายใน 10.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed 308 km/h
- Red Line ที่ 9,000 รอบ/นาที


สปอร์ตเปิดประทุนตัวแรง ขุมพลังเครื่องยนต์รอบจัดสมรรถนะสูง
Porsche 718 Spyder RS ขีดสุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง
- รถ Roadster ตระกูล 718 ให้อัตราเร่งที่เร็วและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- ตอบสนองการขับขี่ที่เหนือระดับด้วยการบังคับควบคุมที่มีประสิทธิภาพ
- หลังคาเปิดประทุนน้ำหนักเบา พร้อมกลไกระบบการทำงานแบบ manual
- โครงสร้างน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ มีน้ำหนักโดยรวมเพียง 1,410 กิโลกรัม
- ถ่ายทอดประสบการณ์ของการดูดอากาศสู่เครื่องยนต์ ด้วยช่องรับอากาศด้านข้าง
- ให้พละกำลัง 500 แรงม้า ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รอบจัด จากปอร์เช่ 911 GT3
ระยะเวลากว่า 30 ปี หลังการนำเสนอรถยนต์ต้นแบบ Boxster ปอร์เช่ได้เปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์เครื่องยนต์วางกลางรุ่นยอดนิยม กับ Porsche 718 Spyder RS ใหม่ เวอร์ชั่นทรงพลังที่สุด ครั้งแรกกับขุมพลังเครื่องยนต์รอบสูงที่ไร้ระบบอัดอากาศ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก Porsche 911 GT3 สู่ยนตรกรรมสปอร์ตเครื่องวางกลางเปิดประทุน
Porsche ยกระดับสมรรถนะให้รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางสายพันธุ์ 718 โดยมุ่งเน้นการออกแบบเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด Porsche 718 Spyder RS ใหม่ คือคู่แฝดของ Porsche 718 Cayman GT4 RS ในเวอร์ชั่นเปิดประทุน นับเป็นครั้งแรกที่นำเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 6 สูบ แบบไร้ระบบอัดอากาศจาก Porsche 911 GT3 ที่ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 500 แรงม้า มาใช้กับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางเปิดประทุน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รอบสูงและมีน้ำหนักเบา บล็อกเดียวกับรถแข่งตัวแรงอย่าง Porsche 911 GT3 Cup โดยน้ำหนักส่วนเกินได้ถูกรีดออกจนเบาเป็นพิเศษ และหลังคาประทุนแบบ soft-top ทำงานด้วยระบบกลไกของ Porsche 718 Spyder RS พร้อมเสียงเครื่องยนต์อันดุดันที่มอบประสบการณ์สุดเร้าใจ คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนมาจากท่อไอเสียแบบสปอร์ตสเตนเลสสตีล ที่มีน้ำหนักเบาจากปอร์เช่ และการออกแบบจัดวางตำแหน่งช่องรับอากาศด้านข้าง บริเวณหลังพนักพิงศีรษะ

ขุมพลังเครื่องยนต์รอบสูงแบบไร้ระบบอัดอากาศ โดดเด่นด้วยโครงสร้างน้ำหนักเบาพิเศษ
ระบบขับเคลื่อนของ Porsche 718 Spyder RS ใหม่ มาในแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับสปอร์ตคูเป้ ปPorsche 718 Cayman GT4 RS ใช้เครื่องยนต์ BOXER 6 สูบ ที่มาพร้อมความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร รอบเครื่องยนต์สูงสุดกว่า 9,000 รอบต่อนาที ให้พละกำลังสูงสุด 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ผสานการทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch (PDK) 7 จังหวะ ที่มีอัตราทดสั้น ส่งผลให้สปอร์ต Roadster 2 ที่นั่ง สามารถรีดสมรรถนะออกมาได้อย่างเต็มพิกัด ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.4 วินาทีเท่านั้น และสามารถทำความเร็ว 200-กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเวลาเพียง 10.9 วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับ 718 สไปเดอร์ ที่ไม่ใช่รุ่น อาร์เอส รถรุ่นเรือธงลำใหม่ล่าสุดนี้ นอกจากจะมีพละกำลังที่เพิ่มขึ้นถึง 80 แรงม้าแล้ว ยังให้อัตราเร่งออกตัวจนถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าถึง ครึ่งวินาที ความเร็วสูงสุดเพิ่มแตะระดับ 308 km/h ขณะที่รุ่นเดิมทำได้ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ดุลยภาพแห่งอากาศพลศาสตร์ชั้นยอด
ตัวถังด้านหน้าของ Porsche 718 Spyder RS ใหม่ มีเอกลักษณ์ที่แทบจะไม่แตกต่างจาก 718 Cayman GT4 RS ฝากระโปรงหน้ามาตรฐานผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) เพิ่มขนาดของช่องอากาศบนกันชนหน้าให้ใหญ่ขึ้น ครีบดักอากาศ NACA ทั้งสองฝั่ง ทำหน้าที่ระบายความร้อนให้แก่ระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทาน (Coefficient of Drag) อุปกรณ์ Sideblades
บริเวณมุมกันชนมีส่วนช่วยในการสร้างแรงกด ลิ้นสปอยเลอร์หน้ามีขนาดสั้นกว่าของ Porsche 718 Spyder RS เล็กน้อย ประสานการทำงานกับปีกหลังขนาดใหญ่ สามารถสร้างแรงกดโดยรวมสูงกว่ารุ่น เคย์แมน และเนื่องจากการตัดสินใจเลือกเพิ่มขนาดของลิ้นสปอยเลอร์เพื่อเสริมความสมดุลย์ให้ระบบอากาศพลศาสตร์แทนการใช้ปีก ส่งผลให้รูปทรงของ 718 Spyder RS มีเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมในสไตล์ ducktail อุปกรณ์ด้านอากาศพลศาสตร์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกดีไซน์ให้ทำงานร่วมกัน เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างสมดุลย์ รวมทั้งให้เสถียรภาพสูงสุดขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง


หลังคาประทุนดีไซน์เฉียบ
ติดตั้งหลังคาประทุน single-layer lightweight soft-top น้ำหนักเบาพิเศษ ควบคุมการทำงานด้วยระบบกลไก แฝงด้วยงานดีไซน์ที่น่าอัศจรรย์ ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลัก 2 ชิ้น ได้แก่ แผงบังแดด sun shield และแผ่นกันลม weather deflector อุปกรณ์ทั้งคู่สามารถถอดประกอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถจัดเก็บรวม หรือแยกจากกันเอาไว้ในรถได้อย่างกลมกลืน และยังสามารถเลือกใช้เพียงแค่แผงบังแดด sun shield เพื่อเป็นหลังคาแบบ ‘Bimini top’ สำหรับป้องกันแสงแดดให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อีกด้วย โดยในกรณีนี้พื้นที่ฝั่งผู้โดยสารจะเปิดโล่งไปจนถึงด้านข้างและด้านหลัง และเมื่อใช้งานร่วมกับแผ่นกันลม weather deflector และปิดกระจกประตูจนสนิท จะทำหน้าที่เป็นหลังคาป้องกันน้ำฝนได้อย่างสมบูรณ์แบบ โครงสร้างหลังคา รวมทั้งชิ้นส่วนกลไกมีน้ำหนักเพียง 18.3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่เบากว่า 718 สไปเดอร์ ถึง 7.6 กิโลกรัม และเบากว่า 718 บ๊อกสเตอร์ ถึง 16.5 กิโลกรัม ผู้ขับขี่สามารถลดน้ำหนักตัวรถลงได้ถึง 8 กิโลกรัมด้วยการถอดหลังคาเก็บไว้ที่บ้าน และขับรถออกไปสัมผัสกับความสดชื่นในวันที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย
ช่วงล่างสปอร์ต ให้การบังคับควบคุมที่แม่นยำ และปราดเปรียว
ระบบช่วงล่างของ 718 Spyder RS ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ 718 Cayman GT4 RS และ 718 Spyder รวมทั้งแนวคิดในการดีไซน์เพื่อรองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตในทุกเส้นทาง มาพร้อมระบบควบคุมการทำงานของช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM) ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานมากับตัวรถ ซึ่งได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ โดยลดระดับความสูงลง 30 มิลลิเมตร เสริมด้วยระบบ Porsche Torque Vectoring (PTV) และเฟืองท้าย limited-slip differential รวมทั้ง ball-jointed suspension bearings ดุดันด้วยล้อ forged aluminium ขนาด 20 นิ้ว คุณลักษณะของระบบช่วงล่าง เน้นไปที่ความเฉียบคมแม่นยำของพวงมาลัย โดยยังคงไว้ซึ่งความปราดเปรียวคล่องตัว และการบังคับควบคุมที่เป็นธรรมชาติที่สุด ความสูงใต้ท้องรถ มุม camber ความกว้างฐานล้อ และเหล็กกันโคลง anti-roll bar สามารถปรับตั้งได้อย่างอิสระ เมื่อเปรียบเทียบกับปอร์เช่ 718 เคย์แมน จีทีโฟร์ อาร์เอส ค่าความแข็งของสปริง และโช้คอัพ ได้รับการปรับแต่งให้ลดลงเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลผ่อนคลายยิ่งขึ้น โดยการ set-up ตัวรถจะเป็นไปตามบุคลิกเฉพาะตัวของรถเปิดประทุน

ห้องโดยสารเน้นประสิทธิภาพในการขับขี่
อารมณ์สปอร์ตคือสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดไปสู่บรรยากาศภายในห้องโดยสาร โดยมุ่งเน้นการลดฟังก์ชั่นที่ไม่จำเป็น และเพิ่มการใช้งานที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ พวงมาลัย RS sports หุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex พร้อมมาร์คแถบสีเหลืองที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เบาะนั่ง full bucket seats น้ำหนักเบาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ในลวดลาย carbon- weave รองรับสรีระของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว ตัวเบาะหุ้มด้วยหนังแท้สีดำ ขณะที่ช่วงกลางของเบาะหุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex ที่ให้ความแตกต่างของเฉดสีพื้นหลัง ซึ่งเลือกได้ทั้งสีเทา Arctic Grey หรือสีแดง Carmine Red ตราสัญลักษณ์ ‘Spyder RS’ ประทับบนหมอนรองศีรษะด้วยสีเดียวกับตัวเบาะ แผงคอนโซล และชิ้นงานตกแต่งภายในหุ้มด้วยหนังแท้ ทั้งนี้สามารถเลือกสีตัวถังภายนอกได้หลากหลาย ตั้งแต่สีปกติ 4 สี, สีเมทาลิก 3 สี รวมทั้งสีใหม่ล่าสุด Vanadium Grey Metallic และสีพิเศษ Arctic Grey, Shark Blue และ Ruby Star Neo อีกด้วย

ชุดแต่ง Weissach Package และ นาฬิกา chronograph รุ่นพิเศษเข้าคู่กับตัวรถ
ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์ อาร์เอส ใหม่ มีราคาจำหน่าย เริ่มต้นที่ 16,500,000 บาท ในประเทศไทย โดย AAS Auto Service มีกำหนดเปิดตัวครั้งแรกของโลกในเดือน มิถุนายน พร้อมวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ยนตรกรรมสปอร์ตปอร์เช่ ณ โรงงาน Stuttgart-Zuffenhausen และหลังจากนั้นจะถูกนำไปเผยโฉมที่งาน Goodwood Festival of Speed ประเทศอังกฤษ
ขอบคุณรูปภาพและแหล่งที่มา : autolifethailand
อ่านข่าวต่อ : หน้าแรก